เครือพูเงิน
เครือพูเงิน ชื่อวิทยาศาสตร์ Argyreia mollis (Burm. f.) Choisy จัดอยู่ในวงศ์ผักบุ้ง (CONVOLVULACEAE)สมุนไพรเครือพูเงิน มีชื่อท้องถิ่นอื่นว่า ย่านตาน (สงขลา) ส่วนปราจีนบุรีเรียก "เครือพูเงิน"
ลักษณะของเครือพูเงิน
ต้นเครือพูเงิน จัดเป็นพรรณไม้เถาวัลย์เนื้อแข็ง ไม่มีมือเกาะ มีความยาวได้ประมาณ 10 เมตร ส่วนของลำต้นยังอ่อนอยู่จะมีขนยาวและราบขึ้นหนาแน่น โดยขนจะเป็นสีขาวหรือสีน้ำตาลปนเหลืองอ่อน ๆ หรือบางทีจะมีคราบสีขาว ๆ ติดอยู่ด้วย ส่วนเปลือกลำต้นจะเป็นสีเทาแกมขาว พรรณไม้ชนิดนี้ขยายพันธุ์โดยใช้เมล็ด มักพบขึ้นตามป่ารุ่น ป่าละเมาะ ป่าเบญจพรรณ และตามสองข้างทางทั่วไป ที่ความสูงจากระดับน้ำทะเลจนถึง 1,500 เมตรใบเครือพูเงิน ใบเป็นใบเดี่ยว ออกเรียงสลับ ลักษณะของใบเป็นรูปรี รูปขอบขนานแคบ ๆ รูปหัวใจ หรือบางครั้งมีลักษณะเป็นรูปไข่หรือรูปหอก ปลายใบแหลมหรือมนและติ่งเล็กแหลม ส่วนขอบใบเรียบ ใบมีขนาดกว้างประมาณ 1.5-7 เซนติเมตร และยาวประมาณ 4-15 เซนติเมตร ผิวใบด้านบนมีขนราบขึ้นหนาแน่นหรือขึ้นกระจายหรือเกลี้ยง แต่ตรงเส้นมักจะเกลี้ยงไม่มีขน ส่วนผิวใบด้านล่างจะมีขนนุ่มคล้ายเส้นไหมสีเงินหรือสีน้ำตาลปนเหลืองอ่อน ๆ ขึ้นหนาแน่น ก้านใบกลม ยาวประมาณ 1-6 เซนติเมตร และมีขนยาวราบ
ดอกเครือพูเงิน ออกดอกเป็นช่อตามซอกใบ ก้านช่อดอกยาวได้ประมาณ 0.5-4.5 เซนติเมตร และมีขน ดอกจะมีตั้งแต่ 1-5 ดอก จะหาได้ยากถ้ามีมากกว่านี้ ก้านดอกนั้นยาวประมาณ 0.5-1.5 เซนติเมตร จะมีขนและเป็นสัน ใบประดับมีลักษณะเป็นรูปขอบขนานแกมรูปไข่กลับ ปลายมน ยาวประมาณ 0.8-1 เซนติเมตร กลีบดอกทั้งหมดตรงด้านนอกจะมีขนยาวคล้ายเส้นไหม ส่วนด้านในกลีบดอกจะเกลี้ยงไม่มีขน เมื่อเป็นผลจะขยายใหญ่ขึ้น โดยด้านในจะเป็นสีแดงหรือสีม่วง กลีบดอกเชื่อมติดกันเป็นรูปกรวยหรือรูประฆัง จะเป็นสีม่วงอ่อนหรือสีชมพู ส่วนตรงโคนกลีบดอกจะเป็นสีขาว จะหาได้ยากที่เป็นสีขาวทั้งหมด ตรงปลายเป็นจักแฉะ ๆ ที่ตรงกลางกลีบ แต่กลีบจะมีขนยาวและราบ ดอกมีเกสรเพศผู้และเกสรเพศเมีย โดยจะมีลักษณะสั้นกว่ากลีบดอกเล็กน้อย ก้านเกสรเพศผู้จะมีขนปุกปุยบริเวณโคน ส่วนรังไข่มีลักษณะเกลี้ยง และมีอยู่ 4 ช่อง
ผลเครือพูเงิน ผลเป็นแบบแคปซูล มีลักษณะกลมโต มีขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 0.8-1 เซนติเมตร ผลเป็นสีแดงหรือสีแดงอมส้ม ภายในผลมีเมล็ดประมาณ 4 เมล็ด หรืออาจน้อยกว่านี้ เมล็ดเป็นสีดำและมีความยาวได้ประมาณ 5 มิลลิเมตร
สรรพคุณของเครือพูเงิน
ทั้งต้นนำมาคั้นเอาน้ำใช้ทำเป็นยาหยอดตารักษาอาการอักเสบ (ทั้งต้น)รากใช้ต้มกับน้ำดื่มเป็นยาแก้ไอ แก้หอบ (ราก)
ใบใช้เป็นยาพอกรักษาฝี (ใบ)
ใบใช้เป็นส่วนประกอบในยาคุ้มกันและยาบำบัด (ใบ)
รากใช้ต้มกับน้ำดื่มเป็นยาบำรุงน้ำนมของสตรี (ราก)
ขอบคุณแหล่งที่มา https://medthai.com
No comments:
Post a Comment