แมงลัก นับว่าเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในที่เป็นเขตร้อน ของทวีเอเชีย อย่างเช่น อินเดีย มังคลาเทศ เนปาล พม่า ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม แล้วก็ได้มีการกระจายพันธุ์ไปเรื่อยๆ ไปยังเขตร้อนตามทวีปต่างๆ ของโลก อย่างเช่น แอฟริกา และอเมริกา และรวมไปถึง ทาง อเมริกาใต้ อีกด้วย และนอกจากนี้ แมงลัก ยังถือว่าเป็นอีกพืชชนิดหนึ่งที่มีมากมายหลายสายพันธุ์ อีกด้วย แต่ว่าที่ในประเทศไทยเรานั้น แมงลักจะมีเพียงแค่สายพันธุ์หลักเพียงสายพันธุ์เดียวนั่นก็คือ “ ศรแดง ” ที่เหลือก็จะเป็นพันธุ์ผสมหรือพันทาง เท่านั้น
แมงลัก สามารถใช้เป็นส่วนผสม เป็นวัตถุดิบส่วนประกอบในอาหาร อย่างเช่น ห่อหมก แกงเลียง อ่อม แกงคั่ว ขนมจีนน้ำยา แกงหน่อไม้ เรามักจะพบมากในอาหารทางภาคอีสาน และโดยส่วนที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ นั่นก็คือใบแมงลัก ซึ่งในส่วนของใบนั้นเราจะนิยมนำมาใช้ประกอบอาหารหรือใส่ในเครื่องแกงต่าง ๆ และส่วนเมล็ดนั้นก็จะนำมาใช้ทำเป็นขนมอื่น ๆ ได้หรือนำไปผสมกับเครื่องดื่มก็ได้เช่นกัน อย่างเช่น น้ำเต้าหู้ น้ำขิง หรือ น้ำใบเตย โดยสามารถ รับประทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลย และยังมีความปลอดภัยสำหรับหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตรอีกด้วย
นอกจากนี้ผลแมงลัก ซึ่งมักเรียกว่า “เม็ดแมงลัก”ยังสามารถใช้เป็นยาระบายชนิดเพิ่มกาก เนื่องจากเปลือกผลมีสารเมือก ซึ่งสามารถพองตัวในน้ำได้ 45 เท่า เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบกินอาหาร ที่มีกาก
ประโยชน์และสรรพคุณเด่นๆของ แมงลัก
- ช่วยขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ
- แก้ลมตานซาง
- แก้ท้องขึ้นอืดเฟ้อในเด็ก
- ช่วยสมานแผล ล้างแผลทุกชนิด
- แก้จุดเสียด
- ขับลมในลำไส้
- แก้พิษ ตานซาง
- แก้ไอ
- แก้หวัด
- แก้หลอดลมอักเสบ
- แก้โรคผิวหนัง
- ช่วยขับเสมหะ
- แก้กลากแก้เกลื้อน
- แก้ลม วิงเวียน
- แก้ไอเรื้อรัง
- แก้ปวดท้อง
- รักษาโรคเกลื้อนน้ำนม
- แก้อาการเกร็งของหลอดลมช่วยย่อย
- แก้สะอึก
- ใช้บดเอาน้ำหยอดหูแก้ปวด แก้หูตึง
- ช่วยทำให้ประจำเดือนเป็นปกติ
- แก้อาเจียน
- ช่วยบรรเทาอาการปวดฟัน
No comments:
Post a Comment