คาสิโนออนไลน์

คาสิโนออนไลน์
คาสิโนออนไลน์

Friday, October 23, 2020

สรรพคุณของ ผักชีลาว ที่มีกลิ่นเฉพาะตัว

ผักชีลาว ถือว่าเป็นผักที่มีกลิ่นของตัวเองที่เป็นเอกลักษณ์ ที่ทำให้หลาย ๆ คนชื่นชอบ แต่สำหรับบางคนก็ถึงกับส่ายหัวเลยทีเดียว แต่ถึงจะอย่างนั้นก็เถอะ ผักชีลาวนั้น ก็นับว่าเป็นพืชผักสมุนไพรที่ทรงคุณค่ามากมาย เพราะคุณค่าทางโภชนาการของผักชีลาวนั้นประกอบไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ ที่มีมากมายหลายชนิดในปริมาณที่สูงอีกด้วย

นอกจากนี้ผักชีลาวยังมีสรรพคุณทางยามากมายที่ช่วยเพิ่มการทำงานของกระเพาะอาหาร ช่วยย่อยอาหารที่รับประทาน แก้อาการท้องอืดท้องเฟ้อ และยังมีส่วนช่วยลดความดันโลหิต ขยายหลอดเลือด และช่วยกระตุ้นการหายใจได้อีกด้วย สำหรับประโยชน์เต็ม ๆ ดูด้านล่างเลยครับ

สรรพคุณของผักชีลาว


  1. มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระในปริมาณมาก ช่วยในการชะลอวัย
  2. ช่วยบำรุงและรักษาสายตา ช่วยป้องกันการเกิดโรคเกี่ยวกับตาต่าง ๆ (เพราะมีวิตามินเอสูงมาก)
  3. ช่วยบำรุงกระดูกและฟันให้แข็งแรง (มีแคลเซียมสูง)
  4. สรรพคุณของผักชีลาวใช้เป็นยาบำรุงกำลังชั่วคราว (ผลแก่)
  5. ช่วยเสริมสร้างภูมิต้านทานโรคให้กับร่างกาย
  6. ช่วยลดความดันโลหิตสูง
  7. ช่วยยับยั้งหรือช่วยชะลอการขยายตัวของเซลล์มะเร็ง
  8. ช่วยรักษาโรคเบาหวาน (เบตาแคโรทีน)
  9. ช่วยขยายหลอดเลือด
  10. ช่วยบำรุงปอด (ผล)
  11. ช่วยขับเหงื่อ (ทั้งต้น)
  12. ช่วยกระตุ้นการหายใจ
  13. แก้หอบหืด (ผล)
  14. ช่วยแก้อาการไอ (ผล)
  15. ช่วยแก้อาการสะอึก (ผล)

Wednesday, October 21, 2020

สรรพคุณสมุนไพร เสลดพังพอนตัวเมีย หรือ พญายอ



สมุนไพร พญายอ เป็นสมุนไพรที่อยู่ในเขตร้อน อย่างเช่น ทวีปแอฟริกา บราซิล และอเมริกา กลาง ส่วนในเอเชียมีการกระจายในประเทศอินโดนีเซีย ไทย พม่า ลาว กัมพูชา เป็นต้น และถือว่าเป็นสมุนไพรที่มีหมอพื้นบ้าน อย่างที่ประเทศ มาเลเซีย อินโดนีเซีย ไทย จีน ใช้รักษาผื่นผิวหนัง แมลงสัตว์กัดต่อย งูกัด แมงป่องต่อย มาตั้งแต่ในอดีตแล้ว ส่วนในประเทศไทยเองนั้น มักพบขึ้นตามป่าเบญจพรรณ หรือพบปลูกกันตามบ้านทั่วไป ทั่วทุกภาคของประเทศ พญายอ หรือ เสลดพังพอนตัวเมียมีชื่อพ้องกัน นั่นก็คือ เสลดพังพอนตัวผู้ แต่ต่างกันตรงที่เสลดพังพอนตัวผู้มีหนาม สรรพคุณอ่อนกว่าเสลดพังพอนตัวเมียและเพื่อไม่ให้สับสนระหว่างสมุนไพร 2 ชนิดนี้ จึงเรียกเสลดพังพอนตัวเมียว่า "พญายอ"

ประโยชน์และสรรพคุณพญายอ

  1. ช่วยถอนพิษไข้ ดับพิษร้อน
  2. แก้อาการผิดสำแดง
  3. แก้เจ็บคอ เจ็บปก แผลในปาก คางทูม
  4. รักษาโรคบิด ไข่ดัน
  5. รักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวก
  6. รักษาแผลน้ำเหลืองเสีย ผื่นคัน
  7. แก้ฝี
  8. แก้พิษงู แมลงสัตว์กัดต่อย
  9. รักษาโรคหัด
  10. เป็นยาขับปัสสาวะ ขับประจำเดือน
  11. แก้ปวดเมื่อยบั้นเอว
  12. บำรุงกำลัง
  13. แก้อาการเจ็บท้อง แก้ผิดอาหาร
  14. แก้ปวดฟัน

Saturday, October 17, 2020

หัวปลี สรรพคุณเด่นๆบำรุงเลือด รักษาโรคกระเพาะ

หัวปลี หรือ banana blossom ที่มีสรรพคุณทางยาที่มากมายเหลือเกิน และยังนิยมนำมาปรุงอาหารทานดิบและสุกก็ได้ ถือว่าเป็นผักเครื่องเคียงผัดไทยอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็นแกงเลียงหัวปลี ยําหัวปลีกุ้งสด ลวกจิ้มนํ้าพริก ทอดมันหัวปลี ปลีกล้วยก็ยังอุดมไปด้วยสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย ที่มากมายหลายชนิด มาดูกันเลยว่าปลีกล้วยมีประโยชน์อะไรบ้าง

ประโยชน์และสรรพคุณของหัวปลี

  1. ที่ยังอุดมไปด้วยแคลเซียม ที่มีมากกว่ากล้วยสุกมากถึง 4 เท่า ทั้ง โปรตีนธาตุเหล็ก ฟอสฟอรัส วิตามินซ บีตาแคโรทีน
  2. สามารถช่วยบำรุงนํ้านม และเพิ่มคุณค่าสารอาหารในน้ำนมแม่ จึงเป็นอาหารที่เหมาะสำหรับแม่ลูกอ่อน
  3. รักษาโรคกระเพราะอาหารอักเสบ และแก้ปวดท้อง และยังบำรุงลำไส้ ที่สำคัญสามารถลดการเกิดแผลในกระเพาะอาหาร
  4. ปลีกล้วย มีธาตุเหล็ก จึงเป็นยาที่ช่วยบำรุงเลือด แก้ภาวะโลหิตจาง และยังช่วยให้เลือดไหลเวียนดีมากยิ่งขึ้น
  5. ปลีกล้วยอุดมไปด้วยแคลเซียม สามารถช่วยบำรุงฟันให้แข็งแรง และช่วยให้ฟันขาวสะอาดแข็งแรง
  6. แก้ท้องอืด ท้องเฟ้อ ขับลม
  7. มีฤทธิ์ลดน้ำตาลในเลือด จึงดีต่อผู้ป่วยโรคเบาหวาน
  8. มีสารต้านอนุมูลอิสระ ปลีกล้วยมีสารกลุ่มฟีโนลิก เช่น แอนโทไซยานิน เบตา-แคโรทีน ซึ่งเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งได้
  9. แก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ แก้ปวดประจำเดือน
  10. ยางจากหัวปลีก็ใช้รักษาแผลสด หรือทาบริเวณที่บวมจากแมลงสัตว์กัดต่อย ช่วยป้องกันการเจริญเติบโตของแบคทีเรียและเชื้อโรคจึงใช้รักษาอาการติดเชื้อได้
  11. ช่วยบำรุงผิวพรรณ ให้นวลเนียน ดูมีน้ำมีนวล
  12. ช่วยรักษาแผลในปากให้หายเร็วขึ้น ช่วยแก้ร้อนใน แผลปากเปื่อย

Friday, October 16, 2020

ประโยชน์ดีๆและสรรพคุณเด่นๆของ ใบแมงลัก


แมงลัก นับว่าเป็นพืชที่มีถิ่นกำเนิดในที่เป็นเขตร้อน ของทวีเอเชีย อย่างเช่น อินเดีย มังคลาเทศ เนปาล พม่า ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม แล้วก็ได้มีการกระจายพันธุ์ไปเรื่อยๆ ไปยังเขตร้อนตามทวีปต่างๆ ของโลก อย่างเช่น แอฟริกา และอเมริกา และรวมไปถึง ทาง อเมริกาใต้ อีกด้วย และนอกจากนี้ แมงลัก ยังถือว่าเป็นอีกพืชชนิดหนึ่งที่มีมากมายหลายสายพันธุ์ อีกด้วย แต่ว่าที่ในประเทศไทยเรานั้น แมงลักจะมีเพียงแค่สายพันธุ์หลักเพียงสายพันธุ์เดียวนั่นก็คือ “ ศรแดง ” ที่เหลือก็จะเป็นพันธุ์ผสมหรือพันทาง เท่านั้น

แมงลัก สามารถใช้เป็นส่วนผสม เป็นวัตถุดิบส่วนประกอบในอาหาร อย่างเช่น ห่อหมก แกงเลียง อ่อม แกงคั่ว ขนมจีนน้ำยา แกงหน่อไม้ เรามักจะพบมากในอาหารทางภาคอีสาน และโดยส่วนที่สามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้ นั่นก็คือใบแมงลัก ซึ่งในส่วนของใบนั้นเราจะนิยมนำมาใช้ประกอบอาหารหรือใส่ในเครื่องแกงต่าง ๆ และส่วนเมล็ดนั้นก็จะนำมาใช้ทำเป็นขนมอื่น ๆ ได้หรือนำไปผสมกับเครื่องดื่มก็ได้เช่นกัน อย่างเช่น น้ำเต้าหู้ น้ำขิง หรือ น้ำใบเตย โดยสามารถ รับประทานได้ทั้งเด็กและผู้ใหญ่เลย และยังมีความปลอดภัยสำหรับหญิงตั้งครรภ์และให้นมบุตรอีกด้วย
นอกจากนี้ผลแมงลัก ซึ่งมักเรียกว่า “เม็ดแมงลัก”ยังสามารถใช้เป็นยาระบายชนิดเพิ่มกาก เนื่องจากเปลือกผลมีสารเมือก ซึ่งสามารถพองตัวในน้ำได้ 45 เท่า เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่ชอบกินอาหาร ที่มีกาก

ประโยชน์และสรรพคุณเด่นๆของ แมงลัก

  1. ช่วยขับลม แก้ท้องอืดท้องเฟ้อ
  2. แก้ลมตานซาง
  3. แก้ท้องขึ้นอืดเฟ้อในเด็ก
  4. ช่วยสมานแผล ล้างแผลทุกชนิด
  5. แก้จุดเสียด
  6. ขับลมในลำไส้
  7. แก้พิษ ตานซาง
  8. แก้ไอ
  9. แก้หวัด
  10. แก้หลอดลมอักเสบ
  11. แก้โรคผิวหนัง
  12. ช่วยขับเสมหะ
  13. แก้กลากแก้เกลื้อน
  14. แก้ลม วิงเวียน
  15. แก้ไอเรื้อรัง
  16. แก้ปวดท้อง
  17. รักษาโรคเกลื้อนน้ำนม
  18. แก้อาการเกร็งของหลอดลมช่วยย่อย
  19. แก้สะอึก
  20. ใช้บดเอาน้ำหยอดหูแก้ปวด แก้หูตึง
  21. ช่วยทำให้ประจำเดือนเป็นปกติ
  22. แก้อาเจียน
  23. ช่วยบรรเทาอาการปวดฟัน


Thursday, October 15, 2020

ประโยชน์ดีๆ จากมะกรูด พืชตระกลูส้ม

 


 มะกรูด กับประโยชน์ดีๆ และสรรพคุณเด่นๆ ของ มะกรูดถือว่าเป็นพืชตระกูลส้ม และมะนาวเป็นพืชพื้นเมืองในเขตร้อนชื้นแถบประเทศเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อย่างเช่น ไทย พม่า ลาว กัมพูชา ฯลฯ  ซึ่งได้ถูกจัดเป็นไม้ผล สำหรับมะกรูด ในประเทศไทยนั้น  ชาวไทยก็คงจะคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี เพราะว่าเป็นสมุนไพรคู่ครัวไทยมานานแสนนาน เพราะนิยมใช้เป็นส่วนผสมในเครื่องแกงที่จำเป็นอย่างขาดไม่ได้เลย โดยปกติแล้วเรามักจะนิยมใช้ใบมะกรูดหรือผิวมะกรูดมาเป็นส่วนผสมของพริกแกงต่างๆ และนอกจากนี้มะกรูดก็ยังมีประโยชน์ในด้านอื่น ๆ อีกมากมาย ไม่ว่าจะเป็นในด้านของความงามและในด้านของยาสมุนไพร อีกทั้งยังถือว่าเป็นไม้มงคลที่นิยมปลูกไว้บริเวณบ้านอีกด้วย เพราะมีความเชื่อกันว่าจะทำให้ผู้อยู่อาศัยมีความสุข โดยมักจะปลูกไว้ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของตัวบ้าน

ประโยชน์และสรรพคุณมะกรูด

  1. ช่วยในการต่อต้านอนุมูลอิสระสูง ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ร่างกายแข็งแรง
  2. กระทุ้งพิษ แก้ฝีภายในและแก้เสมหะเป็นพิษ
  3. มีน้ำมันหอมระเหยผ่อนคลายความเครียด คลายความกังวล
  4. เป็นยาบำรุงหัวใจ
  5. แก้ลม หน้ามืด วิงเวียนศีรษะ
  6. แก้อาการไอ ขับเสมหะ
  7. ช่วยฟอกโลหิต
  8. แก้อาการเลือดออกตามไรฟัน
  9. ช่วยขับลมในลำไส้ แก้อาการจุกเสียด ท้องอืด แน่นท้อง
  10. ช่วยขับระดู ขับลม
  11. ช่วยบำรุงหนังศีรษะและบำรุงเส้นผมให้แข็งแรง
  12. แก้ปัญหากลิ่นเท้าเหม็น มีกลิ่นอับเชื้อรา




Wednesday, October 14, 2020

สรรพคุณและประโยชน์ ของ บอระเพ็ด


บอระเพ็ด
จัดว่าเป็นไม้เลื้อย ที่สามารถพบได้ตามป่าดิบแล้ง และจัดว่าเป็นสมุนไพรไทยบ้าน ๆ ที่มีสรรพคุณทางยาสารพัดประดยชน์

โดยส่วนมากแล้ว ที่นิยมกันจะนำมาใช้ทำเป็นยา คือส่วนของ "เถาเพสลาก" เพราะมีลักษณะไม่แก่หรืออ่อนเกินจนไป และมีรสชาติที่ขมจัด แต่ถ้าหากว่าเป็นเถาแก่จะแตกแห้ง รสเฝื่อน ไม่ขม หรือถ้าอ่อนเกินไปก็จะมีรสไม่ขมมาก

สรรพคุณของบอระเพ็ด

  1. บอระเพ็ดช่วยบำรุงผิวพรรณให้สดใส หน้าตาสดชื่น (ใบ)
  2. มีสารต้านอนุมูลอิสระ มีส่วนช่วยในการชะลอวัย
  3. ประโยชน์ของบอระเพ็ด ช่วยให้ผมดกหนาขึ้นและอาการผมหงอก ผมร่วงก็จะลดน้อยลง ซึ่งจะได้ผลดีอย่างมากกับผู้ที่มีอาการผมหงอกก่อนวัย หากรับประทานผงบอระเพ็ดวันละ 600 mg. เป็นเวลา 1 เดือน
  4. แก้อาการคันหนังศีรษะ รังแค ชันนะตุ
  5. ใช้แก้อาการกระหายน้ำ (เถา, ต้น)
  6. ใช้เป็นยาบำรุงธาตุ บำรุงร่างกาย (ต้น, ใบ)
  7. บอระเพ็ดสรรพคุณใช้เป็นยาอายุวัฒนะ (ราก, ต้น, ใบ) ด้วยการใช้บอระเพ็ด / เมล็ดข่อย / หัวแห้วหมู / เมล็ดพริกไทย / เปลือกต้นทิ้งถ่อน / เปลือกต้นตะโกนา ในสัดส่วนเท่ากันนำมาบดเป็นผง ปั้นเป็นยาลูกกลอนเท่าปลายนิ้วก้อย รับประทานก่อนนอนครั้งละ 2-3 เม็ด หรือจะนำเถาบอระเพ็ดมาหั่นตากแห้งแล้วนำมาบดให้เป็นผงปั้นเป็นลูกกลอนก็ได้
  8. ช่วยให้สุขภาพร่างกายแข็งแรง เสริมสร้างภูมิต้านทาน (ราก)
  9. บอระเพ็ดลดความอ้วน (ใบ)
  10. ใช้รักษาโรคมะเร็งเม็ดเลือด (ราก)





Monday, October 12, 2020

สมุนไพรช่วยได้ แก้ประจำเดือนมาไม่ปกติ ปลอดภัยแถมมีประโยชน์


 เกิดเป็นผู้หญิงนี่แท้จริงช่างแสนจะลำบากจริงๆ ยิ่งถ้าเป็น วันนั้นของเดือน แล้ว ปวดท้องประจำเดือน หรือมีอาการผิดปกติของประจำเดือน มันเป็นอะไรที่ช่างทรมานซะเหลือเกิน โดยปกติผู้หญิงมักมีรอบเดือนอยู่ที่ 21-35 วัน และในแต่ละครั้งที่ประจำเดือนมา ก็จะมีครั้งละ 2-7 วัน แต่ก็มีผู้หญิงไม่น้อยเลยนะที่มีความผิดปกติในเรื่องนี้ อาจจะมาจากสาเหตุหลายอย่าง

อย่างเช่นฮอร์โมน หรือเลือดลมไม่ดี สำหรับการรักษาส่วนใหญ่ก็จะใช้ยาแผนปัจจุบันในการช่วยบรรเทา แต่พอถึงกำหนดก็มักต้องพบเจอกับปัญหาเดิมๆอีกเรื่อยๆ มันจะเป็นเรื่องที่ดีมากถ้าหากว่ามียาตัวไหนมารักษาให้อาการดีขึ้นหรือหายขาดได้ แต่สมุนไพรก็เป็นตัวช่วยอีกหนึ่งอย่างที่น่ากินควบคู่กันไป เพราะไม่มีผลข้างเคียงอะไร และยังปลอดภัยอีกด้วย

ขิง ถือว่าเป็นสมุนไพรที่คู่ตัวสำหรับผู้หญิงจริงๆ ไม่ว่าจะใช้บำรุงสุขภาพ หรือช่วยลดไขมัน ช่วยบำรุงน้ำนมให้คุณแม่ และยังช่วยให้นอนหลับง่าย แถมยังจะเป็นสมุนไพรที่สามารถช่วยรักษาภาวะประจำเดือนผิดปกติได้ดีอีกด้วย

ขมิ้น การรักษาโรคภัยไข้เจ็บอะไร ส่วนมากมักจะมีขมิ้นอยู่ด้วยเสมอ อาจเพราะขมิ้นคือสมุนไพรชั้นเลิศที่รักษาโรคได้สารพัด รวมถึง ภาวะประจำเดือนผิดปกติอีกด้วย เพียงแค่รับประทานขมิ้นให้เป็นประจำจะช่วยบำรุงมดลูก และจะช่วยปรับรอบเดือนให้เป็นปกติได้

ใบสะระแหน่ มินต์แบบไทยๆ รสชาติดีกินกับอาหารอะไรก็อร่อย แถมยังมากคุณค่าอีกด้วย ซึ่งในการรักษาแบบแพทย์แผนอายุรเวท ยังใช้ใบสะระแหน่มารักษาภาวะประจำเดือนผิดปกติ และช่วยบรรเทาอาการปวดประจำเดือน นื่องจากฤทธิ์ของน้ำมันหอมระเหยในใบสระแหน่จะช่วยทำให้ร่างกายผ่อนคลาย

Sunday, October 11, 2020

สรรพคุณและคุณประโยชน์ของ พริกไทย เครื่องเทศสมุนไพรไทย

 


 พริกไทย จัดว่าเป็นเครื่องเทศที่มีรสเผ็ดที่ใช้ในชีวิตประจำวันของคนไทยมาช้านาน มีในตำรับอาหารมากมายที่ขาดพริกไทยไม่ได้ เช่นแกงเลียง คั่วกลิ้ง ในการใช้เป็นยานั้น พริกไทยนับว่าเป็นสมุนไพรที่ปรากฏอยู่ในตำรับยามากที่สุดชนิดหนึ่ง ในตำรับยาเลือด ตำรับยาแก้จุกเสียด ตำรับยาแก้กษัย ตำรายาแก้ทางเสมหะ หอบหืด ตำรับยาแก้ซาง ตำรับยาแก้ริดสีดวง จะต้องมีพริกไทยเป็นตัวยาอยู่เสมอ

จากการศึกษาวิจัยสมัยใหม่ค้นพบว่า พริกไทยช่วยทำให้ระบบการดูดซึมสารอาหารรวมทั้งตัวยาต่างๆ ของร่างกายนั้นดีขึ้น อย่างเช่น เมื่อให้ขมิ้นชันร่วมกับพริกไทย จะทำให้สารเคอร์คิวมินและสารเบต้าแคโรทีนในขมิ้นถูกดูดซึมได้ดีมากยิ่งขึ้น แต่ในขณะเดียวกันพริกไทยจะออกฤทธิ์ต่อทางเดินอาหารได้ดี ก็ต้องมีพริกหรือขมิ้นอยู่เป็นเพื่อนด้วย

Saturday, October 10, 2020

ประโยชน์ดีๆ สรรพคุณเด่นๆ ของ " กะเพรา "

 


กะเพรา
เป็นพืชพื้นเมืองของทางเขตร้อน ในถิ่นโลกเก่า คือ บริเวณเขตร้อนของทวีปเอเชียและทวีปแอฟริกา แต่จะพบมากในแถบเอเชียใต้และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เช่น ประเทศอินเดีย , ศรีลังกา , เนปาล , พม่า , ไทย , ลาว , กัมพูชา ฯลฯ โดยสามารถพบได้ทั้งในแบบที่ขึ้นเองตามธรรมชาติ และแบบที่ปลูกไว้เพื่อใช้ประโยชน์ เช่น ใช้เป็นอาหาร , สมุนไพรรักษาโรค หรือใช้ในด้านพิธีกรรมทางศาสนา เป็นต้น


ประโยช์และสรรพคุณกะเพรา

-ลดอาการท้องอืดเฟ้อ ขับลม
-แก้ปวดท้อง บำรุงธาตุ
-ขับผายลม
-แก้อาการจุกเสียดในท้อง ทำให้เรอ
-แก้ท้องร่วง
-แก้คลื่นไส้อาเจียน
-ช่วยขับเสมหะ ขับเหงื่อ
-แก้โรคผิวหนัง
-แก้อาการปวดท้องในเด็กทารก
-เป็นยาเพิ่มน้ำนมสตรีหลังคลอด ขับน้ำนม
-บรรเทาอาการไข้เรื้อรัง
-แก้ปวดฟัน
-ทาผิวหนังแก้กลากเกลื้อนและโรคผิวหนังอื่น ๆ
-ใช้หยอดหู แก้อาการปวดหู
-เป็นยาอายุวัฒนะ
-เป็นยารักษาหูด 

Friday, October 9, 2020

โหระพา สมุไพรกับสรรพคุณที่โดดเด่น



 โหระพา เป็นพืช สมุนไพรที่มีกลิ่นหอม มักจะนิยมนำมาประกอบอาหารหลากชนิดในประเทศไทย ซึ่งเป็นตัวช่วยในการปรุง หรือแต่งกลิ่นรสของอาหารให้น่ากินยิ่งขึ้น อีกทั้งยังช่วยดับกลิ่นคาวของอาหารได้หลายชนิด เช่น ผัดหอย ผัดเนื้อ ใช้ใบปรุงอาหารเป็นผักโรยชูรสได้หลายชนิด เช่น แกงเผ็ด แกงเลียง ผัด ทอด ใบและยอดอ่อนใช้กินเป็นผักสด เป็นเครื่องแนมอาหารคาวหรืออาหารว่างได้อีกเป็นอย่างดี เพราะโหระพามีใบหนานุ่มกว่ากะเพรา 

รวมทั้งกลิ่นและรสชาติไม่เผ็ดร้อนเท่ากะเพรา จึงนิยมนำมาใช้เป็นผักจิ้มหรือกินสดมากกว่ากะเพรา รวมถึงนิยมใช้กินร่วมกับอาหารที่มีรสจัดและกลิ่นแรง เช่น จำพวกหลน (หลนไส้กรอก หลนแหนม หลนกะปิคั่ว ฯลฯ) จำพวกลาบ (ลาบปลาดุก ลาบเลือด ลาบเป็ด ฯลฯ) จำพวกยำ เมี่ยง แจ่ว ก้อย ส้มตำ ฯลฯ เป็นผักกินกับขนมจีนน้ำยา ปลาร้า ซ่าหมู ใช้ใส่ในแกงบางชนิด เช่น แกงเขียวหวาน แกงโสฬส และแกงเผ็ดหมู แกงเผ็ดไก่ เป็นต้น

และสำหรับสรรพคุณทางยาของโหระพานั้น ตามตำรายาไทยได้ระบุว่า

ใบ : มีกลิ่นฉุน รสร้อน แก้ลมวิงเวียน ขับลมในลำไส้ ขับผายลม แก้ท้องขึ้น ท้องอืด ท้องเฟ้อ แก้ปวดท้อง ทำให้เรอ แก้จุกเสียดในท้อง แก้พิษตานซาง ช่วยย่อยอาหาร แก้หวัดช่วยเจริญอาหาร
ทั้งต้น : แก้พิษตานซาง แก้เด็กนอนสะดุ้งผวาเพราะโทษน้ำดี
เมล็ด : แก้บิด ทำให้อุจจาระไม่เกาะลำไส้ ถ่ายสะดวก เป็นยาระบาย ใช้พอกฝีรักษาแผลในกระเพาะอาหาร

Thursday, October 8, 2020

สรรพคุญและประโยชน์ที่ครบครันของ ฟักข้าว

 


 ฟักข้าว ( Gac fruit ) มีถิ่นกำเนิดจะอยู่ในแถบตะวันออกเฉียงใต้ ของทวีปเอเชีย ตั้งแต่ประเทศจีนตอนใต้ พม่า ไทย ลาว กัมพูชา เวียดนาม มาเลเซีย บังกลาเทศ และฟิลิปปินส์ ฟักข้าวนั้นเป็นได้ทั้งอาหารและยา อีกทั้งยังสามารถนำมาเป็นตัวช่วยในการบำรุงพรรณอีกด้วย ต้องบอกว่ามีประโยชน์ครบครันเลยทีเดียว

ประโยชน์และสรรพคุณทางยาของฟักข้าว


1.ใบฟักข้าว การนำใบมาต้มน้ำดื่ม ช่วยแก้อาการเป็นไข้ตัวร้อน แก้อาการริดสีดวงทวาร แก้พิษ แก้ฝี แก้หูด แก้อาการปวดเมื่อยเนื้อตัวและปวดหลัง

2.รากฟักข้าว นำมาต้มน้ำดื่ม ถอนพิษไข้ ช่วยขับเสมหะ ช่วยแก้เข้าข้อ อาการปวดตามข้อ หรือใช้ทำยาสระผมแก้ผมร่วง

3.เมล็ดฟักข้าว มาต้มน้ำดื่ม แก้ท่อน้ำดีอุดตัน ช่วยขับปัสสาวะนำเมล็ดหรือนำเมล็ดที่แก่จัดมาบดและตากให้แห้ง นำมาผสมน้ำมันทา แก้อาการอักเสบ อาการบวมช้ำ รักษาโรคผิวหนัง เช่น กลากเกลื้อน ผดผื่นคัน

Wednesday, October 7, 2020

สรรพคุณ และ ประโยชน์ ของว่านหางจระเข้

 

 ว่านหางจระเข้ นั้นถือว่าเป็น “พืชมหัศจรรย์” เป็นไม้พุ่มที่มีขนาดเล็ก ว่านหางจระเข้ เป็นพืชสกุลที่แผ่นใบหนาอวบน้ำมากๆ ข้างในจะเป็นวุ้นใส ว่านหางจระเข้จำนวนมากมักจะเกิดขึ้นตามธรรมชาติในแอฟริกาเหนือ

สรรพคุณทางยาของว่านหางจระเข้ นอกจากสรรพคุณดังกล่าว แล้วในสมุนไพรชนิดนี้ยังมีประโยชน์อื่น ๆ อีกมากมาย อย่างเช่น

-ช่วยรักษาโรคเกี่ยวกับฟันและเหงือก

การศึกษาที่ตีพิมพ์ในทันตกรรมทั่วไป รายงานว่า ว่านหางจระเข้ในเจลฟันนั้นมีประสิทธิภาพเทียบเท่ากับยาสีฟันที่ช่วยป้องกันฟันผุ

-ช่วยรักษาอาการท้องผูก
จากหน่วยงานกำกับดูแลด้านสมุนไพรของเยอรมนี Commission E  ได้อนุญาตให้ใช้ ว่านหางจระเข้ ในการรักษาอาการท้องผูก ด้วยปริมาณของน้ำยางว่านหางจระเข้ 50-200 มิลลิกรัม มักจะนำมาใช้ในรูปของเหลวหรือแคปซูลวันละครั้งนานสูงสุด 10 วัน

-รักษาแผลที่เท้าจากเบาหวาน

การศึกษาดำเนินการที่ Sinhgad College of Pharmacy ประเทศอินเดียและตีพิมพ์ใน International Wound Journal เพื่อดูความสามารถของว่านหางจระเข้ในการรักษาแผลจากเบาหวาน

โดยที่พวกเขารายงานว่า “เจลที่มี Carbopol 974p (1 เปอร์เซ็นต์) และ ว่านหางจระเข้ ช่วยส่งเสริมการรักษาแผล และการปิดแผล ที่สำคัญในเบาหวาน เมื่อเทียบกับผลิตภัณฑ์เชิงพาณิชย์และให้ผลิตภัณฑ์ที่มีแนวโน้มที่จะใช้ในแผลที่เท้าจากเบาหวาน”

-ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสรและคุณสมบัติต้านเชื้อแบคทีเรีย
นักวิจัยจากมหาวิทยาลัย Las Palmas de Gran Canaria ประเทศสเปน ตีพิมพ์ผลการศึกษาในวารสารโมเลกุล

จากการสำรวจเพื่อตรวจสอบว่าสารสกัดเมทานอลของผิวหนัง วุ้นใบว่านหางจระเข้นอกจากจะมีสรรพคุณรักษาแผล ต่อต้านเชื้อแบคทีเรียแล้ว ยังช่วยต้านอนุมูลอิสระที่เป็นไปได้และ แบคทีเรียขนาดเล็กได้

ว่านหางจรเข้ส่วนที่เป็นวุ้นหรือสารสกัดจากว่านหางจระเข้นั้นมีฤทธิ์ ช่วยต้านสารอนุมูลอิสระได้ดี และยังมีฤทธิ์การต้านเชื้อแบคทีเรียและเชื้อรา ว่านหางจระเข้จึงมีผลในการช่วยไม่ให้บาดแผลนั้นติดเชื้อจนลามรุนแรง

-ช่วยในการป้องกันจากรังสีอัลตราไวโอเลต (UV)

นักวิทยาศาสตร์ที่ Kyung Hee University Global Campus ประเทศเกาหลีใต้ได้ตรวจสอบแล้วว่า สารสกัดจากว่านหางจระเข้ สำหรับทารกและสารสกัดจากว่านหางจระเข้สำหรับผู้ใหญ่ อาจจะมีผลในการปกป้องผิวจากรังสี UVB  กล่าวอีกนัยหนึ่ง ว่า ว่านหางจรเข้สามารถปกป้องผิวจากการแก่ก่อนวัยจากแสงแดดได้

สารสกัดจากว่านหางจระเข้ (BAE) มาจากยอดอายุ 1 เดือนในขณะที่สารสกัดจากว่านหางจระเข้สำหรับผู้ใหญ่มาจากยอดอายุ 4 เดือน

ในบทความที่ตีพิมพ์ในงานวิจัย Phytotherapy ผู้เขียนสรุปว่า: “ผลลัพธ์ของเราแนะนำว่า BAE อาจปกป้องผิวจากความเสียหายที่เกิดจาก UVB มากกว่า AE”

-ช่วยป้องกันความเสียหายผิวหลังการรักษาด้วยรังสี

การศึกษาที่มหาวิทยาลัยเนเปิลส์ประเทศอิตาลีได้ทำการทดสอบครีมทา 5 ชนิด ที่มีความแตกต่างกัน เพื่อดูว่ามีประสิทธิภาพในการปกป้องผิว ของผู้ป่วยมะเร็งเต้านม ที่ได้รับการรักษาด้วยรังสี หนึ่งในครีมเหล่านี้ ก็มีส่วนผสมจากว่านหางจระเข้ ด้วยเช่นกัน

พวกเขาแบ่งผู้ป่วย 100 คนออกเป็นห้ากลุ่มจาก 20 คน แต่ละคนถูกกำหนดให้รักษาเฉพาะที่แตกต่างกัน พวกเขาใช้ครีมวันละสองครั้งเริ่มต้น 15 วันก่อนการรักษาด้วยการฉายรังสีและดำเนินการเป็นเวลา 1 เดือนหลังจากนั้น